
อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพประเทศสหรัฐ อเมริกา ให้ความรู้ว่า องค์ประกอบหลักในอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นสารอาหาร และส่วนที่ไม่ใช่สารอาหาร องค์ประกอบทั้งสองส่วนมีความสัมพันธ์ต่อการป้องกัน หรือช่วยส่งเสริมการรักษาโรคเรื้อรัง มองได้ถึงองค์ประกอบที่มีฤทธิ์ลดหรือป้องกันโรค
แนวทางการพัฒนาอาหารฟังก์ชัน ก็มาจากแนวคิดของการใช้อาหารเป็นยา (Food as medicine) ที่อาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าแค่สารอาหารหลักๆ ที่มีอยู่ รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางชนิด
ปัจจุบันสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา (Academy of Nutrition and Dietetics หรือ AND) ได้ให้คำจำกัดความอาหารฟังก์ชันว่าเป็น "อาหารธรรมชาติที่มีการแต่งเติมสารอาหารให้มีปริมาณมากขึ้น เพื่อเพิ่มประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพ เมื่อบริโภคเป็นส่วนหนึ่งของอาหารหลากหลายสม่ำเสมอในชีวิตประจำวันและบริโภคในปริมาณที่ เพียงพอ จะส่งผลดีต่อสุขภาพ"
ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ประธานวิชาการ ชมรมโภชนวิทยามหิดล ให้ข้อมูลว่า จากกระแสอาหารเพื่อสุขภาพนี้เองส่งผล ให้นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร นักวิทยาศาสตร์การอาหาร แพทย์ เภสัชกร พยาบาล และนักการตลาดทางด้านอุตสาหกรรมอาหาร หันมาค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ทำให้เกิดการค้นพบคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของอาหารมากขึ้น
ประโยชน์ของอาหารฟังก์ชัน คือ เป็นอาหารที่รับประทานร่วมกับมื้ออาหารได้ ให้ผลในการป้องกันโรค เพิ่มภูมิคุ้มกัน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย

ตัวอย่างอาหารฟังก์ชันที่ได้รับความนิยม เช่น
งา เป็นแหล่งของแคลเซียม และยังมีสารเซซามินซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในกระบวนการกำจัดสารพิษ
พรุน นอกจากมีใยอาหารจำนวนมาก ยังมีกรดนีโอโคลโรเจนนิก และกรดโคลโรเจนนิก ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมีที่มีฤทธิ์ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งป้องกันกระดูกพรุนได้
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อย่างบิลเบอร์รี่ ที่มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ คือ สารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่มีสีแดงม่วงจนไปถึงน้ำเงิน มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยป้องกันดวงตาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ เป็นต้น
น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมัน ไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง หรือโอเมก้า-3 ที่สามารถลดระดับไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ต้าน
การอักเสบ และช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

โสม มีสารจินเซนโนไซด์ ที่ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดความเมื่อยล้า
ส่วนซุปไก่ของชาวจีนที่ถูกแปรรูปไปเป็นซุปไก่สกัด ซึ่งให้โปรตีนและเปปไทด์ รวมทั้งสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ บางชนิดที่ เกิดจากการตุ๋นซึ่งไม่พบในการกินเนื้อไก่โดยตรง
เห็ด ทางการแพทย์ เช่น เห็ดไมตาเกะ เห็ดยามาบูชิตาเกะ เห็ดฮิเมะมัตสึทาเกะ ถั่งเฉ้า เห็ดหลินจือ หรือเรอิชิเห็ดชิตาเกะ และเห็ดแครง เป็นต้น
ที่สำคัญเราต้องรับประทานอาหารหลักให้หลากหลาย ครบทุกหมู่ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใส และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อการมีสุขภาพที่ดี